
ใครว่าความสวยเป็นเรื่องของโชคชะตา? ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การปรับโครงหน้าให้สวยงามตามแบบที่ต้องการกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย หนึ่งในหลักการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการปรับรูปหน้า คือ Golden Ratio หรือ สัดส่วนทองคำ ซึ่งเป็นหลักการทางคณิตศาสตร์ที่บ่งบอกถึงความสมดุลและความงามที่พบได้ในธรรมชาติ และถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบศิลปะและสถาปัตยกรรมมาอย่างยาวนาน
Golden Ratio คืออะไร?
Golden Ratio หรือ สัดส่วนทองคำ ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิดทางศิลปะ แต่ยังมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ การศึกษาหลายชิ้นพบว่า สัดส่วนทองคำเป็นอัตราส่วนที่พบได้บ่อยในธรรมชาติ และเชื่อกันว่าเป็นสัดส่วนที่มนุษย์มองว่าสวยงามที่สุด [1] หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Golden Ratio เป็นที่สนใจก็คือ การปรากฏตัวของมันในสิ่งมีชีวิตและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติมากมาย ดังนี้ค่ะ

1. เปลือกหอยทะเล เปลือกหอยทะเลหลายชนิดมีรูปทรงที่โค้งเว้าเป็นเกลียว ซึ่งเมื่อวัดขนาดของแต่ละส่วนของเปลือก จะพบว่าสัดส่วนต่างๆ สอดคล้องกับ Golden Ratio รูปทรงนี้ช่วยให้เปลือกหอยมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพในการป้องกันตัว

2. ดอกทานตะวัน การเรียงตัวของเมล็ดทานตะวันเป็นเกลียว โดยจำนวนเกลียวทั้งสองทิศทางมักเป็นเลขฟีโบนักชี ซึ่งเป็นลำดับเลขที่เกี่ยวข้องกับ Golden Ratio การจัดเรียงตัวแบบนี้ช่วยให้เมล็ดทานตะวันได้รับแสงแดดและน้ำอย่างทั่วถึงที่สุด

3. ร่างกายมนุษย์ สัดส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ เช่น ความยาวของแขนเทียบกับความยาวของลำตัว หรือความกว้างของไหล่เทียบกับความกว้างของสะโพก มักจะสอดคล้องกับ Golden Ratio [2] สัดส่วนที่สมดุลนี้ทำให้ร่างกายมนุษย์เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ
ทำไมจึงพบสัดส่วนทองคำในธรรมชาติบ่อยครั้ง?
ความสมดุลและเสถียรภาพ: สัดส่วนทองคำเป็นสัดส่วนที่ให้ความรู้สึกถึงความสมดุลและเสถียรภาพ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต
ประสิทธิภาพ: สัดส่วนทองคำอาจช่วยให้สิ่งมีชีวิตมีประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การจับอาหาร การเคลื่อนที่ หรือการสืบพันธุ์
การวิวัฒนาการ: สิ่งมีชีวิตที่สัดส่วนต่างๆ ใกล้เคียงกับสัดส่วนทองคำ อาจมีโอกาสรอดชีวิตและสืบพันธุ์ได้มากกว่า ทำให้ลักษณะทางกายภาพเหล่านี้ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมสู่รุ่นลูกหลานต่อไป
จุดเริ่มต้นของการค้นพบ
อียิปต์โบราณ: พบว่าชาวอียิปต์โบราณได้นำสัดส่วนทองคำมาใช้ในการสร้างพีระมิด โดยสัดส่วนของความสูงและฐานของพีระมิดมีความใกล้เคียงกับสัดส่วนทองคำ
กรีกโบราณ: นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ชาวกรีกอย่าง พีทาโกรัส และ ยูคลิด ได้ศึกษาเกี่ยวกับสัดส่วนทองคำ และเชื่อว่าสัดส่วนนี้เป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์แบบและความงาม
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา: เลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินและนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ได้ศึกษาและนำสัดส่วนทองคำมาประยุกต์ใช้ในผลงานศิลปะของเขา เช่น ภาพวาดโมนาลิซา ซึ่งถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกที่มีการใช้สัดส่วนทองคำอย่างชัดเจน
อินเดียโบราณ: ความสนใจในสัดส่วนทองคำไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในโลกตะวันตกเท่านั้น วัฒนธรรมอินเดียโบราณก็ให้ความสำคัญกับสัดส่วนนี้ในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมและงานศิลปะเช่นกัน โดยเฉพาะในวัดและพระราชวังต่างๆ ที่มีการออกแบบให้สอดคล้องกับหลักการของความสมดุลและความงามตามธรรมชาติ
[3, 4]
การคำนวณ Golden Ratio
Golden Ratio หรือ สัดส่วนทองคำ เป็นอัตราส่วนทางคณิตศาสตร์ที่พบได้บ่อยในธรรมชาติ และเชื่อมโยงกับความงามตามธรรมชาติที่มนุษย์รับรู้ได้ ค่าของ Golden Ratio นั้นประมาณ 1.6180339887... และมักแทนด้วยอักษรกรีกตัว Φ (phi)
มีหลายวิธีในการคำนวณหาค่า Golden Ratio แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือวิธีการแบ่งส่วนเส้นตรง
วาดเส้นตรง: ลากเส้นตรงเส้นหนึ่ง
แบ่งเส้น: แบ่งเส้นตรงเส้นนี้เป็นสองส่วน โดยให้ส่วนที่ยาวกว่า (a) หารด้วยส่วนที่สั้นกว่า (b) เท่ากับผลรวมของความยาวทั้งเส้น (a+b) หารด้วยส่วนที่ยาวกว่า (a)
คำนวณค่า Φ: ค่าที่ได้จากการหารทั้งสองข้างจะเท่ากับค่า Golden Ratio (Φ)
ความเชื่อมโยงระหว่าง Golden Ratio และความงาม
หลายศตวรรษที่ผ่านมา ศิลปินและนักวิทยาศาสตร์ต่างให้ความสนใจกับสัดส่วนทองคำ แนวคิดที่ว่าใบหน้าที่มีสัดส่วนใกล้เคียงกับ Golden Ratio มักได้รับการประเมินว่ามีความสวยงามนั้น ได้รับการสนับสนุนจากการศึกษาและวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้น โดยนักวิจัยได้พยายามหาความเชื่อมโยงระหว่างสัดส่วนทางคณิตศาสตร์นี้กับความรู้สึกทางสุนทรียศาสตร์ของมนุษย์
การวัดสัดส่วนใบหน้า: การศึกษาหลายชิ้นได้ทำการวัดสัดส่วนใบหน้าของบุคคลที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสวยงาม และพบว่าสัดส่วนเหล่านั้นมักใกล้เคียงกับสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนระหว่างความกว้างของใบหน้ากับความยาวของใบหน้า หรือสัดส่วนระหว่างส่วนต่างๆ ของใบหน้า เช่น ระยะห่างระหว่างดวงตา หรือระหว่างปากกับจมูก
การทดลองทางจิตวิทยา: นักวิจัยได้ทำการทดลองโดยนำภาพใบหน้าที่ปรับเปลี่ยนสัดส่วนให้แตกต่างกันไปมาให้ผู้เข้าร่วมการทดลองประเมินความสวยงาม ผลการทดลองส่วนใหญ่พบว่าผู้เข้าร่วมมักจะเลือกใบหน้าที่มีสัดส่วนใกล้เคียงกับ Golden Ratio มากที่สุด
การใช้คอมพิวเตอร์สร้างแบบจำลองใบหน้า: นักวิจัยบางรายได้ใช้คอมพิวเตอร์สร้างแบบจำลองใบหน้าที่สามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนต่างๆ ได้อย่างอิสระ จากนั้นนำแบบจำลองเหล่านั้นมาให้ผู้เข้าร่วมการทดลองประเมิน ผลการทดลองก็สนับสนุนแนวคิดที่ว่าใบหน้าที่มีสัดส่วนทองคำมักได้รับการประเมินว่ามีความสวยงามมากกว่า

ข้อดีของการปรับโครงหน้าตามหลัก Golden Ratio
ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: การปรับโครงหน้าตามสัดส่วนทองคำ จะทำให้ใบหน้าดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งหรือเทียม
ความสมดุล: ใบหน้าจะดูสมดุลในทุกมิติ ทั้งด้านข้างและด้านหน้า
เพิ่มความมั่นใจ: การมีใบหน้าที่สวยงามตามหลักสากล จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
แก้ไขปัญหาใบหน้าได้ตรงจุด: ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใบหน้าไม่สมส่วน คางสั้น หรือแก้มตอบ การปรับโครงหน้าตามหลัก Golden Ratio สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด
ข้อควรพิจารณา
ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อความสวยงาม: แม้ว่าสัดส่วนทองคำจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่กำหนดความสวยงามของใบหน้า ปัจจัยอื่นๆ เช่น สีผิว รูปทรงดวงตา หรือทรงผม ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน
ความหลากหลายของความงาม: ความสวยงามเป็นสิ่งที่หลากหลายและเป็นส่วนตัว ความชอบในใบหน้าแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป
แม้ว่าจะมีการศึกษาและวิจัยสนับสนุนแนวคิดที่ว่าใบหน้าที่มีสัดส่วนใกล้เคียงกับ Golden Ratio มักได้รับการประเมินว่ามีความสวยงาม แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ส่งผลต่อความรู้สึกทางสุนทรียศาสตร์ของมนุษย์ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัดส่วนทองคำสามารถช่วยให้เราเข้าใจความงามของมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น แต่ไม่ควรจำกัดความสวยงามไว้เพียงแค่สัดส่วนทางคณิตศาสตร์
หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจทำการรักษาใดๆ
Reference
[1] (Biederman, I. (1987). Recognition-by-components: A theory of human image understanding. Psychological review, 94(2), 115-147.)
[2] (Zeising, A. (1854). Aesthetische Forschungen. Leipzig: Weigel.)
[3] Livio, M. (2002). The Golden Ratio: The Story of Phi, the World's Most Astonishing Number. Broadway Books.
[4] Dunlap, R. (1997). The Golden Ratio: The Story of Phi, the World's Most Astonishing Number. Bloomsbury USA.
Comments